จบไปแล้วกับเกมยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกนัดแรกเมื่อคืนที่ผ่านมา วันนี้ Gurudark จะมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังครับ




เปิดฉากครึ่งแรกเกมที่เบอนาเบวมาถึงนาทีที่ 36 เรอัล มาดริด ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ คามาวิงกาจ่ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ซัดด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม โดยหลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ต่างแลกหมัดกันแต่ไม่มีประตูเกิดขึ้น ก่อนที่เกมจะจบครึ่งแรกไป


กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 52 โอกาสของแมนฯ ซิตี้ เมื่อ KDB เควิน เดอ บรอยน์ หลุดไปในเขตโทษฝั่งขวาก่อนซัดเน้นๆ แต่ ติโบต์ กูร์ตัวส์ เพื่อนร่วมทีมชาติเซฟออกไปได้อย่างสุดยอด
จากนั้นนาทีที่ 54 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นอีกครั้ง เควิน เดอ บรอยน์ คนเดิม ยิงไกลด้วยซ้าย แต่ ติโบต์ กูร์ตัวส์ ก็ยังเหนียวแน่น
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 67 แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน จ่ายให้ เควิน เดอ บรอยน์คนเดิม ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลพุ่งตรงด้วยความเร็วสูงเข้าประตูไปอย่างสวยงาม


ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมต่างก็ได้บุก ได้รับ แต่ไม่สามารถทำประตูได้จนถึงช่วงจบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกมาเสมอ เรอัล มาดริด 1-1 โดยนัดที่สองจะกลับไปเล่นที่ เอติฮัด สเตเดียม รังเหย้าของ เรือใบสีฟ้า วันที่ 17 พ.ค. นี้


วิเคราะห์ความเป็นไปได้ในเลก 2
จากเกมแรก ทั้งสองฝ่ายเล่นด้วยความรััดกุม โดยทางมาดริดเป็นฝั่งที่ทำเกมบุกได้มากกว่า แต่ด้วยผลสกอร์ ทำให้มาดริดเองต้องเปิดเกมบุกในนัดที่ 2 อาจทำให้มีช่องโหว่ในเกมรับ ซึ่งทางแมนฯ ซิตี้ ต้องขึงเกมบุกให้ได้ หรือไม่ ก็ต้องใช้เกมสวนกลับที่รวดเร็ว เพื่อฉวยโอกาสที่เรอัล มาดริดต้องบุกใส่ หากเกมรับของแมนฯ ซิตี้ สามารถจับตัวจิ๊ดทั้งสองฝั่งของเรอัลมาดริดได้ ก็จะเล่นได้สบายขึ้น
ฟันธง การแข่งขันนัดที่ 2 แมนฯ ซิตี้ 2-0 เรอัล มาดริด